onwin
7. "เอแบค" ตอกย้ำ ม.เอกชนหลักสูตรนานาชาติแห่งแรกของไทย รุกเปิดประตูการศึกษาสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

"เอแบค" ตอกย้ำ ม.เอกชนหลักสูตรนานาชาติแห่งแรกของไทย รุกเปิดประตูการศึกษาสู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

โดย ภราดา ดร.บัญชา แสงหิรัญ อธิการบดี มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบค) เผยว่า “ทางมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบค) และโรงเรียนอัสสัมชัญ นครราชสีมาเราเป็นสถาบันการศึกษาที่บริหารโดยมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทยที่ผลิตบุคลากรเพื่อรับใช้สังคม และประเทศชาติมาเป็นเวลานาน เราทั้ง 2 สถาบันการศึกษาเล็งเห็นความสำคัญในเปิดโอกาสทางการศึกษาในเมืองไทยให้ก้าวสู่ระดับสังคมโลก (Form International to Globalization) ซึ่งเอแบคเป็นสถาบันการศึกษาแห่งแรกในเมืองไทยที่เปิดสอนหลักสูตรนานาชาติในทุกหลักสูตรในระดับอุดมศึกษาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2512 ซึ่งตลอดมาทางบัณฑิตที่เรียนจบจากที่นี่เป็นบุคลากรที่มีคุณภาพสร้างสรรค์พัฒนาชาติไทยให้เจริญก้าวหน้ามากมาย ทางมหาวิทยาลัยเองในเรื่ององค์ความรู้นั้นก็เป็นอันดับหนึ่งไม่รองใคร       กว่า 40 ปี ที่เอแบค หรือ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญยืนหยัดเป็นมหาวิทยาลัยเอกชนที่เปิดสอนหลักสูตรนานาชาติที่มีนักศึกษามากเป็นอันดับต้นของเมืองไทย ล่าสุดมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบค) ร่วมมือกับโรงเรียนอัสสัมชัญ นครราชสีมา เตรียมขยายโอกาสทางการศึกษาให้นักเรียนมัธยมที่กำลังจะเข้ามหาวิทยาลัยและผู้ที่สนใจศึกษาต่อในระดับโท และเอก ได้รับคำปรึกษาและสมัครเรียนในภูมิภาคของตัวเองผ่าน ศูนย์ ABAC Admissions Center ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ คือ จังหวัดนครราชสีมา 

ในส่วนของผู้ปกครองที่จะส่งบุตรหลานเข้าศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ จะได้รับความมั่นใจและมีส่วนร่วมกับบุตรหลานในการตัดสินใจสรรหาสถาบันการศึกษาที่ดีที่สุด และมั่นใจที่สุดสำหรับส่งบุตรหลานเข้ามาเรียน เพราะสามารถเข้าถึงข้อมูลตรงและรวดเร็วจากศูนย์รับสมัครที่มีอยู่ในภูมิภาคของเรา ที่ผ่านมาเร่าค่อนข้างเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ในการศึกษาต่อของเด็กมัธยมปลายและจนผู้สนใจศึกษาต่อในหลักสูตรนานาชาติระดับปริญญาโทและปริญญาเอก ด้วยความเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้แบบนานาชาติที่มีนักศึกษาจากกว่า 80 ประเทศทั่วโลกเข้ามาศึกษาในแต่ละปี และมีหน่วยกิตการศึกษาที่ไม่แพงอย่างที่คิดเมื่อเทียบกับหลักสูตรนานาชาติของสถาบันอื่นในเมืองไทย และด้วยความเพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกในการศึกษาที่มีความทันสมัย ทัศนียภาพและสภาพแวดล้อมอันงดงาม จะส่งผลให้ผู้เรียนประสบผลสำเร็จและมีความสุขกับการมาเรียนในสถาบัน

นอกจากนี้เอแบคยังเล็งเห็นความสำคัญของการสร้างศักยภาพทางการแข่งขันให้แก่ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(SMDs)ของประเทศไทย โดยศูนย์แห่งนี้จะเป็นศูนย์บริการให้คำปรึกษาและให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการโดยชื่อว่า ศูนย์สร้างสรรค์นวัตกรรมทางธุรกิจ หรือ ABAC Innovation. Creativity and Enterprise (ICE Center) และ ศูนย์ ABAC Business Leal and Advisory Center หรือ ศูนย์ปรึกษาทางธุรกิจ และกฎหมาย แก่ผู้ประกอบธุรกิจ SMEs เราคาดว่าการขยายโอกาสทางการศึกษาของเอแบคสู่ภูมิภาคอื่นๆ ต่อ ทั่วประเทศไทย จะสามารถสร้างสรรค์บุคลากรที่มีคุณภาพครบสูตรมารับใช้ประเทศชาติ และสังคมโลกได้ โดยที่นักศึกษาเหล่านี้สามารถเลือกเรียนได้ตามศูนย์ที่อยู่ในภูมิลำเนาของตนเอง” ภรดา ดร.บัญชา กล่าวทิ้งท้าย 

ด้าน ภราดาวีรยุทธ บุญพราหมณ์ อธิการโรงเรียนอัสสัมชัญนครราชสีมากล่าวว่า “โรงเรียนอัสสัมชัญนครราชสีมา เป็น 1 ใน 14 สถาบันของมูลนิธิคณะเซนต์คาเบรียลแห่งประเทศไทย สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน กระทรวงศึกษาธิการ ที่ได้รับใช้ด้านการศึกษาให้กับชุมชนและผู้ปกครองของจังหวัดนครราชสีมาและจังหวัดใกล้เคียงตลอดระยะเวลากว่า 40 ปี ที่เราประสบความสำเร็จ ทางด้านการจัดการศึกษาและเป็นที่ยอมรับของสังคมมาโดยตลอด  

โรงเรียนอัสสัมชัญนครราชสีมาของเรา เปิดทำการสอนตั้งแต่ชั้นก่อนประถมศึกษา ถึง มัธยมศึกษาตอนปลายโรงเรียนมุ่งพัฒนาเยาวชนไทยให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของนักบุญหลุยส์ มารี กรีญอง เดอ มงฟอร์ตที่มีจุดมุ่งหมายแรกเริ่มที่จะสอนให้เยาวชนอ่านออก เขียนได้ คิดเลขเป็น และมีหลักศาสนาเป็นแนวทางให้ประพฤติตนเป็นคนดี ปัจจุบันเรามีความพร้อมในทุกด้านทั้งอาคารเรียน อาคารประกอบ รวม 12 อาคาร อาคารที่พักนักเรียน ประจำ 4 อาคารห้องเรียนและห้องปฏิบัติการกว่า 100 ห้อง มีครูไทยและครูต่างชาติกว่า 200 คน และนักเรียนกว่า 3,000 คนต่อปี ซึ่งนักเรียนประจำและนักกีฬาช้างเผือกกว่า 30 คน การเปิดศูนย์รับสมัครเข้าศึกษาต่อในมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญจึงเป็นการเพิ่มโอกาสต่อยอดสู่ความสำเร็จของลูกหลานชาวอัสสัมชัญสายตรง เพื่อก้าวไปสู่ระดับประเทศและนานาชาติในอนาคตอันใกล้” 

 

สนใจสอบถามข้อมูลได้ที่ ศูนย์ ABAC Admissions and study Abroad Center

โทร.044-295300 เบอร์ตรง 081 8151237

แหล่งที่มา : หนังสือพิมพ์ คมชัดลึก ปีที่ 10 ฉบับที่ 3496 วันอังคารที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 หน้า 10